วิธีพาตัวเองออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ง่ายๆ 5 ขั้นตอน

มนุษย์เงินเดือน อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีทักษะอนาคต (future skill) เพราะโลกเศรษฐกิจดิจิตอล นั้น สามารถสร้างรายได้ง่ายๆ ขอแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต

Reading Time: 1 min.

มนุษย์เงินเดือน

เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตตัวเองถูกผูกมัดไปกับงานที่น่าเบื่อหน่ายในองค์กร วันละ 8 ชั่วโมง ติดต่อกัน 5 วันต่อสัปดาห์ มนุษย์เงินเดือน ที่เป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ของเครื่องจักรขนาดมหึมา เป็นวัฏจักรการทำงานแลกเงินน้อยนิดที่ไม่มีวันจบสิ้น?

มนุษย์เงินเดือน นิยามทาสของค่าจ้าง ผู้ขายเวลาราคาถูก

สภาพการเป็นมนุษย์เงินเดือนเหล่านั้น ถูกเรียกว่าทาสยุคใหม่ทาสของค่าจ้าง” แม้โควิดระบาดหนัก ฝุ่น PM2.5 ค่าเกินกว่ามาตรฐาน คุณต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปทำงาน เพื่อแลกค่าจ้าง แม้ด้วยโลกยุคดิจิตอลสมัยใหม่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา คุณยังมีความจำเป็นต้องเดินทางในแต่ละวัน ขาไป 1 ชั่วโมง เดินทางกลับ 2 ชั่วโมง และคลุกอยู่กับงานที่ไม่ได้รักวันละ 8 ชั่วโมง อีกหรือไม่ ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตซ้ำๆวนไป เพื่อขายเวลาราคาถูกๆ รอวันเกษียณอายุ แล้วหวังจะได้มีความสุข ณ ปลายทาง ตามที่จินตนาการไว้ในหัว

นี่ยังไม่คิดแบบกำไรขาดทุน ระหว่างรายได้จากเงินเดือนประจำ ที่ถูกหักค่าใช้จ่ายมากมายหลายรายการแล้ว วิธีวางแผนการเงิน มนุษย์เงินเดือน มันเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขหลังเกษียณได้จริงเหรอ เป็นเรื่องน่าคิด มนุษย์เงินเดือน รวยได้ไหม?

ทาสของค่าจ้าง
มนุษย์เงินเดือน ทาสของค่าจ้าง

มนุษย์เงินเดือนกับเส้นทางความก้าวหน้าแบบช้าๆด้วยรูปทรงปิรามิด

มนุษย์เงินเดือนเปรียบได้ดังกับปลาที่อยู่ใต้นำ้ รอคอยเศษขนมปังหรืออาหารที่โปรยหล่อเลี้ยง เพื่อให้วนเวียนและมีชีวิตอยู่ในบ่อต่อไป

ปลาที่อยู่ใต้น้ำ

ระบบการทำงานเป็นแบบโควต้า จำกัดจำนวนคนเก่ง คนดีในองค์กร ตัดเกรดการทำงาน เหมือนคัดเกรดผัก ปลา คนที่ทำมาก คนที่ทำน้อย เวลาประเมินผลงานไม่ได้แตกต่างกันมากนัก หากจะต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด จะต้องพัฒนาตนเองให้โดดเด่นกว่าคนอื่นอย่างเด่นชัด

นี่ไม่นับรวมถึงระบบดัชนีชี้วัด (KPI) ที่สร้างความท้าทาย หรือเพิ่มความตึงเครียดขึ้นในทุกๆปี เช่น ยอดขายปีนี้ 20 ล้าน ปีหน้าและปีต่อๆไป ก็ต้องมากกว่านี้ 25, 30, 35, 40 ล้าน ขึ้นไปเรื่อยๆ

อุปมาปีนี้เป้าหมายขับรถที่ความเร็ว 80 กม./ชม. เป้าปีหน้าและปีต่อๆไปก็จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เป็น 100, 120, 140, 160 กม./ชม. เป็นต้น ถามว่าความรู้สึกระหว่างขับรถที่ความเร็ว 80 กม./ชม. กับ เหยียบด้วยความเร็ว 160 กม./ชม. ความเครียดจะต่างกันมากแค่ไหน นี่แหละสภาพการทำงานของมนุษย์เงินเดือนที่ ทักษะกับรายได้มักไม่ค่อยจะสอดคล้องกันสักเท่าไหร่

ปิรามิด
มนุษย์เงินเดือน

วิธีหาเงินเพิ่มนอกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน

เดี๋ยวก่อน ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้ให้ลาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนแต่อย่างใด เพียงจะกระตุ้นเตือนให้รีบพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้สอดรับกับเศรษฐกิจโลกยุคดิจิตอล ซึ่งสามารถสร้างรายได้เพิ่ม ควบคู่ไปพร้อมๆกับการทำงานประจำ ผู้คนส่วนใหญ่ ต่างยอมรับว่า “เงิน” คือสิ่งที่สำคัญสำหรับอนาคตของทุกคน เพราะ

  • เงิน คือ เส้นเลือดใหญ่ของการอยู่ในสังคม
  • เงิน คือ ทรัพยากรที่จำเป็นในการสร้างอนาคตของคุณและครอบครัว
  • เงิน คือ แนวร่วมที่จะทำฝันของเราให้เป็นจริงตามต้องการ
  • เงิน คือ โอกาสในการเพิ่มทางเลือกให้กับชีวิต
  • เงิน คือ ตัวชี้วัดที่เป็นสากลในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ
  • เงิน คือ สิ่งสำคัญที่ช่วยเติมชีวิตให้กับเราทุกคน

ซึ่งวิธีการหาเงินเพิ่ม ควบคู่กับการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น ให้เริ่มทำควบคู่กันไป เพื่อพิสูจน์ฝีมือของเราว่ามีทักษะเพียงพอที่จะหลุดออกจากมนุษย์เงินเดือนหรือไม่ โดยมีวิธีการคร่าวๆ ดังนี้ (ซึ่งจะลงรายละเอียด และขยายความในเนื้อหาต่อๆไป)

  1. ปั้นตัวเองให้เป็นสินค้า
  2. เขียนโปรโมทตัวเอง เพื่อดึงดูดผู้คน
  3. ขายตัวเองด้วยวิธีการในแบบลักษณะเฉพาะกลุ่ม

นี่คือหลักการที่จะสร้างรายได้เพิ่มในแบบลักษณะโลกยุคดิจิตอล ที่ผมแนะนำว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง

วิธีหาเงินเพิ่ม

5 ขั้นตอน วิธีการพาตัวเองออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน

นี่คือข้อแนะนำ สำหรับวิธีการพาตัวเองออกจากงานประจำที่ปลอดภัยและชาญฉลาดที่สุด ด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆในทุกวันนี้ เอื้อต่อการสร้างธุรกิจสมัยใหญ่ ที่ทำได้ลำพังเพียงตัวคนเดียว (Solopreneur หรือ one person business) ไม่ต้องลงทุนด้วยจำนวนเงินมหาศาล และทุ่มเทเวลาไปดูแลธุรกิจอะไรมากมาย นั่นแปลว่า เราสามารถหาเวลานอกจากงานประจำ มาสร้างรายได้ควบคู่กันไป โดยไม่กระทบกับงานประจำให้เสียหาย เพียงแต่คุณต้องพัฒนาทักษะใหม่ๆที่เป็น Future skill ให้พร้อมเท่านั้น ทีนี้ก็มาเริ่มกันเลย

การพัฒนาทักษะใหม่

1.เริ่มต้นด้วยการสร้างตัวเองให้เป็น Personal Brand (พร้อมๆกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน)

มนุษย์เราทุกคนถูกสร้างให้มีความแตกต่างกัน (แม้แต่คู่แฝด) ซึ่งสิ่งนี้คือ Personal Brand แบบธรรมชาติ จริงๆเราไม่ต้องสร้างอะไรใหม่เลย แค่เป็นตัวเราให้มากที่สุด ไม่ต้องพยายามไปลอกเลียน หรือเป็นคนอื่น ดังนั้น การเป็น personal brand จึงเป็นการลงทุนที่ต้นทุนต่ำมาก

2.ฝึกทักษะแก้ปัญหาต่างๆของตนเองให้เชี่ยวชาญ

สินค้าที่ทุกคนต้องการ และปฏิเสธไม่ลง คือ สิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้คนได้จริง ดังนั้น ในขั้นตอนนี้ ให้เราค้นหาปัญหาของตัวเราเอง และฝึกทักษะ เรียนรู้วิธี เพื่อแก้ปัญหาให้กับตัวเองให้สำเร็จ จนเชี่ยวชาญ ซึ่งควรเกี่ยวกับสิ่งต่อไปนี้

  • สุขภาพ (Health)
  • การเงิน (Weath)
  • สัมพันธภาพ (Relation)
  • ความสุข (Happiness)

3.เผยแพร่สิ่งที่เราค้นพบผ่านการเขียนให้ผู้คนรับรู้

เขียนเผยแพร่เทคนิค และวิธีการแก้ปัญหาในแบบฉบับของเรา ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Social media, Blog post ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องมีทักษะการเขียนเป็นพื้นฐาน เมื่อผู้คนรับรู้ว่าเราคือตัวจริง ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ก็จะกลายมาเป็นลูกค้าให้กับเราในอนาคต

4.สร้างรายได้จากข้อ 1-3

ในขั้นนี้เราอาจจะทำเป็นฟรีแลนซ์ อาชีพเสริม หรือเป็นที่ปรึกษาไปพลางๆก่อน เพื่อเก็บโปรไฟล์ จากนั้นค่อยเริ่มขายสินค้าออนไลน์ หรือสินค้าจับต้องได้ ที่ใช้เวลาไม่มากนัก (เน้นทำน้อย แต่ได้ผลลัพธ์มาก)

5.สร้างรายได้ให้ต่อเนื่อง 2-3 ปี แล้วขยายไปสู่ธุรกิจหลัก

การสร้างรายได้ให้ต่อเนื่อง เป็นการพิสูจน์และฝึกฝนทักษะตัวเราเอง ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงไปด้วย เมื่อลงตัว มั่นใจ ก็ค่อยขยายเป็น start-up, ผลิตซอฟท์แวร์แบบ software as a service (saas) หรือสร้างเป็นชุมชนเฉพาะทาง (community) เป็นต้น

ทักษะตัวเราเอง

สรุปวิธีพาตัวเองออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน

ทักษะเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะสามารถหลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนได้หรือไม่ ถ้ามีแค่ทักษะพื้นๆทั่วไป การทำงานประจำอาจจะเหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าหากคุณมีทักษะอนาคต (future skill) ที่สอดรับกับโลกยุคเศรษษฐกิจดิจิตอล (digital economy) การทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียว (solopreneur หรือ one person business ) คือโอกาสที่จะทำให้การสร้างรายได้และการใช้ชีวิตเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆคนแสวงหา

ออกจาก

Related posts

การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21

การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 อย่าไปเสียเวลาเรียนเพื่อรู้ แต่ให้เรียนทักษะที่ทำเงินได้เลย

Reading Time: 1 min.

การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 (Future skill) นั้นอย่าไปเสียเวลาเรียนรู้อะไรที่ไม่ใช่ทักษะทำเงิน ให้มุ่งพัฒนา evergreen skill โดยให้ขายสินค้า Digital products ด้วยการทำธุรกิจแบบคนๆเดียว (Solopreneur)

อ่านเพิ่มเติม

อยากมีไอเดียแต่คิดไม่ออก ให้บอก AI

Reading Time: 1 min.

เครื่องมือฝรั่งโคตรเจ๋งชื่อว่า Nichess ที่ให้ AI ช่วยเจนเนอเรทไอเดียออกมาให้เราเพียงแค่เราป้อนข้อมูลสั้นๆเข้าไป

อ่านเพิ่มเติม