5 วิธีดึงศักยภาพการทำงานของคุณ ด้วยวิธี “Deep work”

Deep Work ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่เป็นการใช้สมาธิและความตั้งใจจริงระหว่างทำงาน มีเทคนิคและวิธีการอะไร ที่จะพาคุณดำดิ่งท่ามกลางสิ่งรบกวนบ้าง

Reading Time: 1 min.

Deep Work

Deep Work ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่เป็นการใช้สมาธิและความตั้งใจจริงระหว่างทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน (ในหนังสือใช้คำแปลไทยว่า ดำดิ่งท่ามกลางสิ่งรบกวน) การที่เราไม่สามารถจดจ่อกับการทำงานได้ ทำให้เราเสียเวลาและประสิทธิภาพไปอย่างมาก

ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนตอนทำงาน ผมจะเปิดอีเมล์ทิ้งไว้ แล้วก็สลับไปตอบแชทบ้าง เข้าโซเชียลมีเดียบ้าง สุดท้ายวันนึงก็ผ่านไปแบบงงๆ ได้งานนิดเดียว แถมยังเหนื่อยล้าเหมือนไปวิ่งมาราธอนซะงั้น เพื่อนผมคนนึงเคยบอกว่า “การทำงานเหมือนไก่จิกข้าว” ผมว่ามันใช่เลย แล้วก็มานั่งคิดว่า เอ๊ะ ทำไมชีวิตการทำงานของเรา มันเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้าเลย

จนกระทั่งผมได้รู้จักกับแนวคิด “Deep Work” ผมถึงได้เข้าใจว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ปริมาณงาน แต่อยู่ที่คุณภาพของการทำงานต่างหาก การทำงานแบบกระจัดกระจาย ทำให้เราไม่ได้ใช้ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่เลย

Cal Newport ผู้เขียนหนังสือ “Deep Work” บอกว่าในยุคปัจจุบันที่เราถูกรบกวนด้วยการแจ้งเตือนต่างๆ ตลอดเวลา ความสามารถในการทำงานอย่างลึกซึ้ง (Deep Work) กลายเป็นทักษะที่มีค่ามากๆ เมื่อเทียบกับการทำงานแบบผิวเผิน (Shallow Work) ที่ไม่สร้างผลลัพธ์ที่แท้จริง ซึ่งการทำงานแบบ Shallow Work เหมือนเรากำลังใช้เวลาและพลังงานไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ ทำให้เราไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ได้

หนังสือ “Deep Work” โดย Cal Newport เน้นถึงความสำคัญของการทำงานที่ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจสูง (Deep Work) ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน ซึ่งการทำงานแบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าการทำงานแบบผิวเผิน (Shallow Work) หนังสือได้อธิบายถึงแนวทางและกลยุทธ์ต่างๆ ในการฝึกฝนและนำ Deep Work มาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการจัดการเวลา การลดสิ่งรบกวน และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานแบบ Deep Work

ลองคิดดูว่าในแต่ละวันเราเสียเวลาไปกับการเช็คอีเมล์ ตอบแชท หรือเลื่อนฟีดโซเชียลมีเดียไปมากแค่ไหน แล้วถ้าเรานำเวลาเหล่านั้นมาใช้กับการทำงานที่ต้องใช้ความคิดและความตั้งใจอย่างจริงจัง จะเกิดอะไรขึ้น?

deep work คืออะไร

Deep Work คืออะไร?

Deep Work คือ การที่เราจดจ่อกับงานอย่างเต็มที่ โดยปราศจากสิ่งรบกวนใดๆ เป็นการใช้สมาธิและพลังความคิดทั้งหมดไปกับงานเดียว ซึ่งต่างจากการทำงานแบบ Shallow Work ที่เป็นการทำงานแบบกระจัดกระจาย ทำหลายอย่างพร้อมกัน แต่ไม่ได้ใช้สมาธิหรือโฟกัสอย่างเต็มที่

ทำไม Deep Work ถึงสำคัญ?

ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน การที่เราสามารถโฟกัสและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันทำให้เราสร้างผลงานที่ดีได้ในเวลาที่สั้นกว่า และยังช่วยให้เราพัฒนาทักษะต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของเรา

ความสำคัญของการทำงานแบบ Deep Work

การทำงานแบบ Deep Work จะช่วยให้เราสร้างผลงานที่มีคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ที่สูงขึ้นได้ เนื่องจากเราได้ใช้สมาธิและความตั้งใจอย่างเต็มที่ในการทำงานนั้นๆ ซึ่งแตกต่างจากการทำงานแบบ Shallow Work ที่มักจะถูกรบกวนและขาดความต่อเนื่อง

สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักพลาดในการทำ Deep Work

หลายคนพยายามที่จะทำ Deep Work โดยที่ไม่เข้าใจถึงหลักการที่แท้จริง เช่น การพยายามทำหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) ซึ่งเป็นการทำลายสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน หรือการไม่จัดสรรเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำงานแบบ Deep Work ทำให้ไม่สามารถจดจ่อกับการทำงานได้

วิธีฝึกการทำงานแบบ Deep Work:

  • กำหนดช่วงเวลา Deep work: สร้างตารางเวลาสำหรับการทำงานแบบ Deep Work โดยเฉพาะ และพยายามหลีกเลี่ยงการทำอย่างอื่นในช่วงเวลานั้น
  • กำจัดสิ่งรบกวน: ปิดการแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือ ปิดอีเมล หรือหาพื้นที่ที่เงียบสงบเพื่อทำงาน
  • ใช้เทคนิค: เช่น เทคนิค Pomodoro ที่ช่วยให้เราทำงานเป็นช่วงๆ สลับกับการพักผ่อน
  • ฝึกสมาธิ: การทำสมาธิจะช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น และสามารถจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น
  • เริ่มจากน้อยไปมาก: เริ่มต้นจากการทำ Deep Work ในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเมื่อรู้สึกชำนาญมากขึ้น

Deep Work กับความสำเร็จ:

การทำงานแบบ Deep Work ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำงานให้เสร็จ แต่มันคือการพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

สรุป Deep Work ไม่ใช่แค่ทำงาน แต่ต้องทำงานอย่างลึกซึ้ง

การทำงานแบบ Deep Work ไม่ใช่แค่การทำงานหนัก แต่เป็นการทำงานอย่างฉลาด การที่เราสามารถจดจ่อและโฟกัสกับการทำงานที่สำคัญจริงๆ จะทำให้เราสร้างผลงานที่มีคุณภาพและแตกต่างจากคนอื่นๆ ได้ และนั่นแหละคือหัวใจของความสำเร็จในยุคนี้

เหมือนที่ Cal Newport บอกว่า

“ในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เหมือนกัน คนที่สามารถจดจ่อและใช้สมาธิได้อย่างเต็มที่ต่างหากที่จะเป็นผู้ชนะ”

ผมว่าจริงนะ แล้วคุณล่ะ พร้อมที่จะเป็นผู้ชนะแล้วหรือยัง?

ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การที่เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลงานที่โดดเด่นได้ จะทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นๆ การฝึกฝนทักษะ Deep Work ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะมันจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีสติและมีเป้าหมายมากขึ้น

จำไว้ว่า “สมาธิ” คือ Superpower ของคุณ ถือเป็นหนึ่งใน Soft skill ที่สำคัญ และ Deep Work คือกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อคศักยภาพที่แท้จริงของคุณ

อ่านเพิ่มเติม มี soft skill อะไรบ้างที่ควรพัฒนาในปี 2025 คลิกอ่าน

Related posts

Deep Wok คือ

4 เคล็ดลับ Deep Work คืออะไร? ทำไมช่วยเพิ่มโฟกัสการทำงานในยุคดิจิตอล

Reading Time: 1 min.

หลายคนคิดว่า การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multi Tasking) เป็นการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด แต่ความคิดนี้ผิดถนัด เพราะการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ไม่ได้เท่ากับผลิตภาพที่สูงขึ้นเท่ากับ Deep work

อ่านเพิ่มเติม
Manifest

Manifest ปั้นฝันให้เป็นจริง: 7 ขั้นตอนง่าย ๆ สร้างชีวิตที่อยากได้

Reading Time: 1 min.

Manifest คือ การตั้งจิตอธิษฐานให้สิ่งที่ต้องการเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ แต่เป็นการใช้ “กฎแรงดึงดูด” ที่ว่าสิ่งที่เราคิดถึงบ่อย ๆ จะดึงดูดสิ่งนั้นเข้ามาในชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
วิธีพัฒนา soft skill

8 วิธีพัฒนา soft skill 2025 มีอะไรบ้าง พัฒนาแล้วเติบโตก้าวกระโดด

Reading Time: 0 min.

8 วิธีพัฒนา soft skill ในปี 2023 ที่ช่วยให้คุณเติบโตแบบก้าวกระโดดมีอะไรบ้าง ซึ่งช่วยส่งเสริมทักษะ hard skill ที่เป็นพื้นฐานในการทำงานได้เป็นอย่างดี

อ่านเพิ่มเติม