Hard skill คืออะไร มีอะไรบ้าง และ 4 ทักษะนี้ที่ AI แทนไม่ได้

อย่างที่ทราบว่าการพัฒนา Soft skill นั้นสำคัญมาก ถึงขั้นเป็นทักษะที่จะทำให้บุคคลนั้นกลายเป็นคนพิเศษได้เลย แต่ Hard skills ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ แล้วยิ่งยุคสมัยนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่าง AI (Artificial Intelligence) ก็เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก ที่จะช่วยให้เรามีทักษะเหนือผู้อื่นได้ ถ้าเราเก่งเรื่องการใช้คำสั่งให้เอไอช่วย หรือที่เรียกว่า Command prompt นั่นเอง ดังนั้นจึงสำคัญต่อ Future skill มากๆ ถือเป็นหนึ่งทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องเร่งพัฒนาให้แตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก

Hard skills คืออะไร

Hard skill คือ ทักษะที่เกี่ยวข้องกับวิชาวิชาชีพ หรือทักษะในงาน (Technical skill) ของแต่ละอาชีพนั้นๆ โดยตรง ซึ่งปัจจุบันนี้ AI ได้ถูกพัฒนามาไกลมาก และในอนาคตอาจจะแย่งงานมนุษย์ไปได้สูงถึง 85% (จากการศึกษาของ McKinsey & Company เมื่อปี 2016)

Hard skill มีอะไรบ้างที่ AI ทำได้ดี

ปัจจุบันได้มีการนำเอาเทคโนโลยี AI Engineer หรือ Machine Learning มาใช้ในการทำงาน​มากขี้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ต้นทุนถูกลง รองรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกยุคที่เป็น Big data ที่จำเป็นต้องใช้พวก Machine learning เข้ามาช่วยงานให้มาก โดยจะมีตำแหน่งงานใหม่ๆที่คอยไปควบคุม AI เหล่านั้นอีกที เช่น Data Science หรือ Data Scientist เป็นต้น

ทักษะที่เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำได้ดีนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลการทำซ้ำๆ การจดจำ การวิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูล ได้อย่างรวดเร็ว และนี่คือตัวอย่างบางส่วน ที่ปัญญาประดิษฐ์นั้นทำได้ดีกว่าสิ่งที่มนุษย์

1.งานศิลปะ

ล่าสุดที่หลายท่านได้รู้จักว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถทำงานศิลปะได้สวยงามกว่ามนุษย์ นั่นก็คือ Midjourney ซึ่งสามารถเจนเนอเรทคำสั่งออกมาเป็นศิลปะ หรืองานกราฟฟิค ได้สวยงามมากๆ โดยค่าสมัครสมาชิกก็ถูกมากๆ โดยเริ่มต้นที่ 10$ ต่อเดือน เท่านั้น

Midjourney

2.งานจดบันทึก ถอดตัวหนังสือ

หากลองนึกถึงการประชุมในองค์กร ที่มีประธานนั่งหัวโต๊ะ และมีเลขาผู้คอยจดบันทึกรายงานการประชุม ซึ่งผู้จดรายงานการประชุมอาจจะใช้เครื่องบันทึกเสียง และคอยถอดจากเสียงออกมาเป็นตัวหนังสือ เพื่อทำรายงานสรุปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ในการจัดส่งสรุปรายงานการประชุมให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง

แต่ล่าสุด Noota สร้าง AI (Artificial Intelligence) ถอดเสียงให้เป็นตัวหนังสือ แบบ Realtime ได้มากกว่า 70 ภาษา ซึ่งสามารถจัดส่งรายงานการประชุมได้ในทันที

3.งานออกแบบหรืองานกราฟฟิค

ในงานออกแบบ หรืองานกราฟฟิค สามารถทำงานแทนนักออกแบบได้อย่างรวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาล เช่น สามารถลบฉากหลังออกจากตัวแบบได้ในพริบตา สามารถออกแบบเซ็ตสีต่างๆให้เข้ากับ Theme ได้อย่างสวยงาม อย่างนี้เป็นต้น

4.งานเขียนบทความ

AI สามารถเขียนบทความ เรียบเรียง สรุปบทความที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต ให้สั้นกระชับ ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งมีแอปประเภทนี้อยู่หลายตัว เช่น Jarvis, Frase, Nichess เป็นต้น

5.นอกจากนี้ยังมี Hard Skills อื่นๆอีกมากมาย

ยังมีทักษะอื่นๆอีกมากมายที่เทคโนโลยี หรือปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ เช่น การวิเคราะห์โรค และจ่ายยารักษาให้กับผู้ป่วย การลงบันทึกข้อมูลทางบัญชี ฯลฯ

hard skill

มีทักษะอะไรบ้าง ที่ AI จะเข้ามาทดแทนได้ยาก

สิ่งที่ AI (Artificial Intelligence) ไม่สามารถทดแทนทักษะที่มีของมนุษย์ได้นั้น จะเป็น soft skills ซึ่งได้แก่

  • Sensing
  • Emotion
  • Mindfulness
  • Creativity

1. Sensing

การใช้ประสาทสัมผัส ความรู้สึก ที่มีต่อ รูป รส กลิ่น เสียง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตรรกะ หรือเหตุผลต่างๆ ซึ่งตรงนี้มนุษย์ หรือสัตว์ ทำได้ดีอยู่แล้ว และยังมีอีกหลายส่วนที่ระบบ AI ไม่สามารถทำทดแทนได้

2. Emotion

การรับรู้และเข้าใจถึงสภาวะ อารมณ์​ที่ลึกซื้ง หลากหลายของคน อาทิ ความรัก​ ความโลภ ความโกรธ ความหลงต่างๆ ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ หรือเทคโนโลยี ไม่สามารถเข้าอกเข้าใจในอารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์ได้

3. Mindfulness

การมีสติระลึกรู้ การมีสติหักห้ามใจไม่ให้ไหลไปตามกิเลส การรู้ผิดชอบชั่วดี สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาทดแทนตรงนี้ได้

4. Creativity

การคิดสร้างสรรค์ หรือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ นั้นจำเป็นต้องใช้สมองของมนุษย์ในการคิดสร้างสรรค์ ให้แตกต่างออกไปจากกรอบ หรือรูปแบบเดิมๆ สิ่งนี้ที่มนุษย์เราทำได้ดี และเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนได้ยาก

คนทำงาน และองค์กรต้องจะเตรียมรับมืออย่างไร

สิ่งที่องค์กรต่างๆจะต้องเตรียมรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ที่กำลังมาถึง เพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขันได้ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว บุคลากรของเราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง และปรับเปลี่ยนกรอบความคิดใหม่เกี่ยวกับการทำงาน โดยองค์กรจะต้องปลูกฝังคุณลักษณะเฉพาะเหล่านี้ให้กับบุคลากร

1. การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Continuous Learning)

หลายคนเชื่อว่า จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้ว ก็สิ้นสุดการเรียน แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อทำงาน ต้องการความก้าวหน้า ยิ่งต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

สังคมในปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ดังนั้น ถ้าหยุดเรียนรู้เมื่อไหร่ จะตกยุคได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสมัยก่อนมาก

ดังนั้น จึงต้องหมั่นเพิ่มทักษะใหม่ๆ ให้กับตนเองอยู่ตลอดเวลา การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 คือ ยิ่งเรียนรู้ให้ไว ยิ่งสร้างความได้เปรียบ

2. การคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking)

อีกหนึ่งทักษะที่จำเป็นในยุคนี้คือ การคิดเชิงวิเคราะห์ เนื่องจากยุคนี้ ข้อมูล ข่าวสาร มีมากมายหลายช่องทาง การมีความสามารถในการแยกแยะว่าสิ่งใดมีความเกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวข้อง แยกแยะให้ออกระหว่างเท็จกับจริง ระหว่างความจริงกับคำโกหก นี่คือทักษะที่ AI มิอาจทำได้ทัดเทียมกับมนุษย์

3. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

การจดจำสิ่งต่าง ๆ การทำงานเชิงตรรกะ หรือการค้นหาข้อมูล สิ่งเหล่านี้ต้องยกให้ว่าคอมพิวเตอร์เก่งกว่ามนุษย์เราเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อเป็นการคิดนอกกรอบ การสร้างแนวคิดใหม่ๆ หรือการสร้างประสบการณ์ระหว่างบุคคล ตรงนี้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถทำได้

ด้วยเหตุนี้ เราถึงมีความได้เปรียบในการคิดเชิงสร้างสรรค์ เพราะเราต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัวและอารมณ์ของคนเรา ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ซึ่งเครื่องจักร หรือคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำได้

4. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

แม้ว่าในอนาคต AI จะถูกพัฒนาให้สามารถวินิจฉัยโรคได้เร็ว และแม่นยำกว่าแพทย์ ในทุกวันนี้ แต่ปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ก็ไม่สามารถพูดคุย ให้คำปรึกษา แสดงความเห็นอกเห็นใจได้

เพราะในบางครั้ง ผู้ป่วยต้องการกำลังใจ ต้องการคนรับฟังอย่างตั้งใจ ดังนั้น การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ จึงเป็นความได้เปรียบไปตลอดกาล เพียงแค่มนุษย์เรารักษาคุณค่าความเป็นมนุษย์ ที่รู้จัก เห็นใจ เมตตา กรุณา ต่อกัน

5. มีสติ (Mindfulness)

สติเป็นข้อได้เปรียบที่เรามีเหนือกว่าเครื่องจักร การตระหนักรู้ตนเองในปัจจุบันขณะ ไม่ปล่อยใจฟุ้งซ่าน จะทำให้เป็นบุคคลที่มีเสน่ห์ น่าคบหา

สติเป็นรากฐานของการพัฒนาทักษะอื่นๆ อีกหลายอย่าง เพราะการมีสติสร้างความสุขให้กับต้นเอง และผู้อื่นได้เป็นอย่างดี

สรุป

เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจในโลกปัจจุบัน เมื่อ AI ไล่ล่า วิธีการรับมือที่ดีที่สุดคือการพัฒนา Soft skills และ Hard skills ที่เป็น Future skill ของตนเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเจริญก้าวหน้าอย่างไร ถ้าเราพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกลับโลกยุคเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เราก็เป็นเป็นผู้ที่มีความก้าวหน้า และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

รวมบทความ

Hard skill

Productivity

คุณเบื่อไหมกับชีวิตการทำงานที่แสนวุ่นวาย แถมยังรู้สึกหมดไฟ (Burn out) ทั้งที่ใจจริงๆก็อยากพัฒนาตัวเอง. Slow Productivity คือทางออกในโลกยุคนี้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

อ่านเพิ่มเติม
virtual events

ยุคที่แพลตฟอร์มด้าน Virtual Event มันจำเป็นต้องใช้ และต้องทำได้ดีกว่า zoom แต่หลังจากที่ทดลองใช้งานมาหลายตัว ยังพบปัญหาอยู่เยอะพอสมควร

อ่านเพิ่มเติม